เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2563 เวลา 10.00 น. นายนิพนธ์ คนขยัน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ เป็นประธานพิธีเปิดโครงการอบรมกฎหมายแก่ประชาชน ประจำปีงบประมาณ 2563 โดยมี ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนทั่วไปในเขตพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ เข้าร่วมการอบรม กว่า 600 คน ณ หอประชุมคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมเดอะวัน อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ
นายนิพนธ์ คนขยัน กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิรับรู้และการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของราชการ ตามพระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 และอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 สำหรับพระราชบัญญัติ ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 นับเป็นกฎหมายที่มีความสำคัญที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเรื่องการคุ้มรองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในเรื่อง “ สิทธิที่จะรู้” ซึ่งหมายถึง สิทธิที่ประชาชนควรรู้และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่อยู่ในความครอบครองของรัฐ หน่วยงานรัฐต้องให้ความสำคัญในการบริการเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลข่าสารของทางราชการ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องภายใต้หลักการของกฎหมายที่ว่า “เปิดเผยเป็นหลัก ปกปิดเป็นข้อยกเว้น” ซึ่งในโอกาสนี้ได้ให้เกียรติบรรยายพิเศษในหัวข้อ “การพัฒนาท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ” พร้อมกันนี้ผู้นำชุมชนได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ในประเด็นปัญหายาเสพติด โดยนายกองค์การบริการส่วนจังหวัดบึงกาฬได้ขอความคิดเห็นในการสร้างศูนย์ปรารถนาดี เพื่อต่อสู้กับปัญหายาเสพติดในจังหวัดบึงกาฬ โดยผู้นำชุมชนมีมติเห็นชอบให้จัดทำศูนย์ดังกล่าวเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดให้แก่ลูกหลานเยาวชนในจังหวัดบึงกาฬต่อไป
นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากสำนักงานจังหวัดบึงกาฬ บรรยายในหัวข้อเรื่อง
ความรู้เกี่ยวกับ พรบ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 และ
สิทธิรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน จาก นายสมหวัง อารีย์เอื้อ
ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด และช่วงในบ่าย
มีหัวข้อการบรรยาย เรื่องอำนาจหน้าที่ของ อบจ.บึงกาฬ
ตาม พ.ร.บ. องค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ. 2540 วิทยากร โดย นายนิพนธ์ อันชื่น
ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบึงกาฬ ซึ่งความรู้จากการอบรมของผู้นำชุมชนในครั้งนี้ ถือตัวแทนที่สำคัญในการเป็นกระบอกเสียงถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนของแต่ละหมู่บ้านต่อไป